wkkschool
Would you like to react to this message? Create an account in a few clicks or log in to continue.
wkkschool

โรงเรียนวัดเขียนเขต


You are not connected. Please login or register

ส่งเรื่องเล่าเร้าพลังของนางสุมาลี รามฤทธิ์

Go down  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

wkk63



lol! “ ความรักของพ่อแม่ ครู และเพื่อนร่วมโลกช่วยเด็กพิการได้”
จากประสบการณ์การสอนเด็ก ไม่ว่าจะเป็นเด็กปกติหรือเด็กพิเศษ ซึ่งผู้เขียนนับว่ามีประสบการณ์ในการสอนพอสมควร ไม่ว่าจะสอนเด็กด้อยโอกาส เด็กบกพร่องทางสติปัญญา หรือเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน เราก็มักจะได้ยินคำพูดของผู้ปกครองเสมอว่า ทำไมต้องเกิดกับครอบครัวของเรา? เวรกรรมอะไรถึงทำให้ลูกของเราต้องเกิดมาเป็นเช่นนี้? แล้วหมอหรือครูจะช่วยรักษาให้ลูกของเราหายจากความผิดปกตินี้ได้มั้ย จะมีวิธีการอย่างไร แล้วอนาคตของเด็กจะเป็นเช่นไร
นี่คือคำถามที่ผู้เขียนได้ฟังจนอยู่บ่อยๆ และเราก็จะให้คำตอบกับผู้ปกครองได้ว่า การรักษาให้หายนั้นคงเป็นไปไม่ได้แต่การพัฒนาการในด้านต่างๆ เราสามารถพัฒนาหรือฝึกกันได้ เพื่อให้มีพัฒนาการที่ดีขึ้นเพื่อให้เขาสามารถช่วยเหลือตนเองได้ไม่เป็นภาระแก่ผู้อื่นและดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข
สังคมไทยแต่เดิมยังไม่ยอมรับและเปิดโอกาสให้แก่คนพิการมากนัก พ่อ แม่หรือผู้ปกครอง
จึงยังไม่กล้านำบุตรหลานออกสู่สังคม อาจจะเป็นเพราะความอาย หรือกลัวเป็นปัญหาเมื่ออยู่นอก-
บ้าน ภาระต่างๆ จึงอยู่ที่ผู้ดูแลหรือพ่อ แม่เท่านั้น ไม่รู้จะหาวิธีช่วยเหลือลูกๆ ที่พิการได้อย่างไร
ปี พ.ศ. 2542 กระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายให้จัดตั้งศูนย์การศึกษาพิเศษขึ้นทุกจังหวัด
เพื่อให้การบริการช่วยเหลือระยะแรกเริ่ม ฟื้นฟูและเตรียมความพร้อมแก่เด็กพิการทุกประเภท
ตั้งแต่แรกเกิดหรือแรกพบเห็น จึงเปิดโอกาสให้พ่อ แม่ ผู้ปกครอง ที่มีบุตรหลานพิการเข้ารับ
บริการด้านการศึกษาที่ศูนย์การศึกษาพิเศษตามจังหวัดที่ตนเองอาศัยอยู่ นอกจากศูนย์การศึกษา-
พิเศษแล้วยังมีมีหน่วยงานในจังหวัดอีกหลายหน่วยงานไม่ว่าจะเป็นพัฒนาสังคมและความมั่นคง
ของมนุษย์จังหวัด สาธารณสุขจังหวัด ฯลฯ ที่ให้ความสำคัญในการให้การดูแลช่วยเหลือคนพิการ ตามภารกิจของตน
และที่สำคัญการให้การศึกษาในโรงเรียนเฉพาะทาง
ผู้เขียนในฐานะที่เคยเป็นครูที่ให้บริการการเรียนการสอนแก่เด็กพิการ มีความเห็นว่าสิ่งที่จะ
ช่วยเหลือบุตร หลานพิการได้ผลดีที่สุดก็คือ พ่อ แม่ ของเด็กพิการนั่นเอง การมอบความรัก
ความเอาใจใส่ ทุ่มเทในการดูแลลูก โดยการรับความรู้ ความเข้าใจและวิธีการฝึกฝนต่างๆ จากครู
ที่ให้บริการ นำไปปฏิบัติต่อเนื่องที่บ้านอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำ จะทำให้ลูกมีพัฒนาการที่ดีขึ้น การมีลูก
พิการหรือเด็กพิการอยู่ในความดูแล นอกจากจะได้รับการช่วยเหลือทางการแพทย์,
โรงเรียนเฉพาะความพิการ ศูนย์การศึกษาพิเศษ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ คอยให้
ความช่วยเหลือแล้ว กำลังใจและการดูแลด้วยความรักอย่างจริงจังของพ่อ แม่ หรือผู้ดูแล เป็นสิ่งที่
สำคัญที่สุดที่จะช่วยให้เด็กพิการมีพัฒนาการที่ดีขึ้นได้ จึงขอเป็นกำลังใจให้พ่อแม่หรือผู้ปกครอง
เด็กพิการทุกคน ในการฝึกฝนบุตรหลานต่อไป รวมไปถึงเด็กที่เรียนร่วมอยู่ในชั้นเรียนปกติ ครู และเพื่อนร่วม
ห้องก็จะต้องมอบความรัก และความเมตตาให้กับผู้พิการเหล่านี้ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมโลกของเรา และไม่มองว่าเขา
คือความแตกต่าง ไม่มองว่าเขาคือภาระของสังคม แต่เขาคือส่วนหนึ่งของสังคมที่เราทุกคนต้องให้การดูแล “ ความรักของพ่อแม่ ครู และเพื่อนร่วมโลกช่วยเด็กพิการได้”
จากประสบการณ์การสอนเด็ก ไม่ว่าจะเป็นเด็กปกติหรือเด็กพิเศษ ซึ่งผู้เขียนนับว่ามีประสบการณ์ในการสอนพอสมควร ไม่ว่าจะสอนเด็กด้อยโอกาส เด็กบกพร่องทางสติปัญญา หรือเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน เราก็มักจะได้ยินคำพูดของผู้ปกครองเสมอว่า ทำไมต้องเกิดกับครอบครัวของเรา? เวรกรรมอะไรถึงทำให้ลูกของเราต้องเกิดมาเป็นเช่นนี้? แล้วหมอหรือครูจะช่วยรักษาให้ลูกของเราหายจากความผิดปกตินี้ได้มั้ย จะมีวิธีการอย่างไร แล้วอนาคตของเด็กจะเป็นเช่นไร
นี่คือคำถามที่ผู้เขียนได้ฟังจนอยู่บ่อยๆ และเราก็จะให้คำตอบกับผู้ปกครองได้ว่า การรักษาให้หายนั้นคงเป็นไปไม่ได้แต่การพัฒนาการในด้านต่างๆ เราสามารถพัฒนาหรือฝึกกันได้ เพื่อให้มีพัฒนาการที่ดีขึ้นเพื่อให้เขาสามารถช่วยเหลือตนเองได้ไม่เป็นภาระแก่ผู้อื่นและดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีความสุข
สังคมไทยแต่เดิมยังไม่ยอมรับและเปิดโอกาสให้แก่คนพิการมากนัก พ่อ แม่หรือผู้ปกครอง
จึงยังไม่กล้านำบุตรหลานออกสู่สังคม อาจจะเป็นเพราะความอาย หรือกลัวเป็นปัญหาเมื่ออยู่นอก-
บ้าน ภาระต่างๆ จึงอยู่ที่ผู้ดูแลหรือพ่อ แม่เท่านั้น ไม่รู้จะหาวิธีช่วยเหลือลูกๆ ที่พิการได้อย่างไร
ปี พ.ศ. 2542 กระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายให้จัดตั้งศูนย์การศึกษาพิเศษขึ้นทุกจังหวัด
เพื่อให้การบริการช่วยเหลือระยะแรกเริ่ม ฟื้นฟูและเตรียมความพร้อมแก่เด็กพิการทุกประเภท
ตั้งแต่แรกเกิดหรือแรกพบเห็น จึงเปิดโอกาสให้พ่อ แม่ ผู้ปกครอง ที่มีบุตรหลานพิการเข้ารับ
บริการด้านการศึกษาที่ศูนย์การศึกษาพิเศษตามจังหวัดที่ตนเองอาศัยอยู่ นอกจากศูนย์การศึกษา-
พิเศษแล้วยังมีมีหน่วยงานในจังหวัดอีกหลายหน่วยงานไม่ว่าจะเป็นพัฒนาสังคมและความมั่นคง
ของมนุษย์จังหวัด สาธารณสุขจังหวัด ฯลฯ ที่ให้ความสำคัญในการให้การดูแลช่วยเหลือคนพิการ ตามภารกิจของตน
และที่สำคัญการให้การศึกษาในโรงเรียนเฉพาะทาง
ผู้เขียนในฐานะที่เคยเป็นครูที่ให้บริการการเรียนการสอนแก่เด็กพิการ มีความเห็นว่าสิ่งที่จะ
ช่วยเหลือบุตร หลานพิการได้ผลดีที่สุดก็คือ พ่อ แม่ ของเด็กพิการนั่นเอง การมอบความรัก
ความเอาใจใส่ ทุ่มเทในการดูแลลูก โดยการรับความรู้ ความเข้าใจและวิธีการฝึกฝนต่างๆ จากครู
ที่ให้บริการ นำไปปฏิบัติต่อเนื่องที่บ้านอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำ จะทำให้ลูกมีพัฒนาการที่ดีขึ้น การมีลูก
พิการหรือเด็กพิการอยู่ในความดูแล นอกจากจะได้รับการช่วยเหลือทางการแพทย์,
โรงเรียนเฉพาะความพิการ ศูนย์การศึกษาพิเศษ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างๆ คอยให้
ความช่วยเหลือแล้ว กำลังใจและการดูแลด้วยความรักอย่างจริงจังของพ่อ แม่ หรือผู้ดูแล เป็นสิ่งที่
สำคัญที่สุดที่จะช่วยให้เด็กพิการมีพัฒนาการที่ดีขึ้นได้ จึงขอเป็นกำลังใจให้พ่อแม่หรือผู้ปกครอง
เด็กพิการทุกคน ในการฝึกฝนบุตรหลานต่อไป รวมไปถึงเด็กที่เรียนร่วมอยู่ในชั้นเรียนปกติ ครู และเพื่อนร่วม
ห้องก็จะต้องมอบความรัก และความเมตตาให้กับผู้พิการเหล่านี้ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมโลกของเรา และไม่มองว่าเขา
คือความแตกต่าง ไม่มองว่าเขาคือภาระของสังคม แต่เขาคือส่วนหนึ่งของสังคมที่เราทุกคนต้องให้การดูแล confused

affraid

ขึ้นไปข้างบน  ข้อความ [หน้า 1 จาก 1]

Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ