๑)หัวข้อ แนวปฏิบัติที่เป็นแบบอย่างที่ดี
๒)ชื่อผู้เล่า นางสาวปวิตรา กิจจานุมาศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
๓)ชื่อเรื่อง จิ๊กซอว์สร้างความคิด
๔)วัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนช่วยเหลือเกื้อกูลและพึ่งพากันภายในกลุ่ม
๕)เทคนิควิธีปฏิบัติ
วันหนึ่งข้าพเจ้าได้สอนวรรณคดีชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เรื่องโคลงโลกนิติ
ผู้เรียนจะต้องมีการอ่านแล้วต้องถอดความคำประพันธ์จากร้อยกรองให้เป็นร้อยแก้วจึงจะทำให้ผู้เรียนเข้าใจในเนื้อหามากขึ้น ข้าพเจ้าจึงนำเทคนิคการสอนแบบ JIGSAW I ซึ่งเป็นการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Co-operative Learning) มาประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอนของข้าพเจ้า โดยมีขั้นตอนดังนี้
๕.๑ ครูแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มๆ คละตามความสามารถ
๕.๒ ครูแบ่งเนื้อหาคำประพันธ์จากวรรณคดีที่จะให้นักเรียนถอดความออกเป็น
หัวข้อย่อยๆ ให้เท่ากับจำนวนสมาชิกในกลุ่ม
๕.๓ ครูให้สมาชิกในกลุ่มแต่ละคนศึกษาหัวข้อหรือเนื้อหาที่ต่างกัน
๕.๔ นักเรียนที่ได้รับหัวข้อให้ศึกษาเรื่องเดียวกันจากแต่ละกลุ่มมานั่งด้วยกัน เพื่อ
ทำงานและศึกษาร่วมกันในหัวข้อหรือเนื้อหาคำประพันธ์ที่ถูกแบ่งเพื่อให้ถอด
ความดังกล่าว เราเรียกว่า กลุ่มผู้เชี่ยวชาญ
๕.๕ สมาชิกแต่ละคนออกจากกลุ่มผู้เชี่ยวชาญกลับไปกลุ่มเดิมของตนเพื่อผลัดกัน
ถ่ายทอดความรู้ที่ตนศึกษาให้เพื่อนฟังจนครบทุกหัวข้อ
๕.๖ ครูอธิบายประกอบการซักถามเนื้อหาเพิ่มเติมเพื่อเป็นการตรวจสอบความรู้ของ
นักเรียนว่าจากการร่วมกันศึกษาแลกเปลี่ยนความรู้นั้นถูกต้องชัดเจนเพียงพอ
หรือไม่
๖)บทเรียนที่ได้รับ
นักเรียนและครูเกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันทั้งชั้นเรียนตลอดจนเป็นการเสริมสร้างความคิดใหม่ๆ ในการศึกษาเนื้อหาให้กว้างขึ้น
๗)แนวทางแก้ไขเพื่อพัฒนาต่อยอด
นักเรียนมีความมั่นใจว่าตนเองมีความสามารถทำให้เกิดทักษะในการพูดประเภทอธิบายหรือบรรยายที่ดีต่อไป
๒)ชื่อผู้เล่า นางสาวปวิตรา กิจจานุมาศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
๓)ชื่อเรื่อง จิ๊กซอว์สร้างความคิด
๔)วัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนช่วยเหลือเกื้อกูลและพึ่งพากันภายในกลุ่ม
๕)เทคนิควิธีปฏิบัติ
วันหนึ่งข้าพเจ้าได้สอนวรรณคดีชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เรื่องโคลงโลกนิติ
ผู้เรียนจะต้องมีการอ่านแล้วต้องถอดความคำประพันธ์จากร้อยกรองให้เป็นร้อยแก้วจึงจะทำให้ผู้เรียนเข้าใจในเนื้อหามากขึ้น ข้าพเจ้าจึงนำเทคนิคการสอนแบบ JIGSAW I ซึ่งเป็นการเรียนรู้แบบร่วมมือ (Co-operative Learning) มาประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอนของข้าพเจ้า โดยมีขั้นตอนดังนี้
๕.๑ ครูแบ่งนักเรียนออกเป็นกลุ่มๆ คละตามความสามารถ
๕.๒ ครูแบ่งเนื้อหาคำประพันธ์จากวรรณคดีที่จะให้นักเรียนถอดความออกเป็น
หัวข้อย่อยๆ ให้เท่ากับจำนวนสมาชิกในกลุ่ม
๕.๓ ครูให้สมาชิกในกลุ่มแต่ละคนศึกษาหัวข้อหรือเนื้อหาที่ต่างกัน
๕.๔ นักเรียนที่ได้รับหัวข้อให้ศึกษาเรื่องเดียวกันจากแต่ละกลุ่มมานั่งด้วยกัน เพื่อ
ทำงานและศึกษาร่วมกันในหัวข้อหรือเนื้อหาคำประพันธ์ที่ถูกแบ่งเพื่อให้ถอด
ความดังกล่าว เราเรียกว่า กลุ่มผู้เชี่ยวชาญ
๕.๕ สมาชิกแต่ละคนออกจากกลุ่มผู้เชี่ยวชาญกลับไปกลุ่มเดิมของตนเพื่อผลัดกัน
ถ่ายทอดความรู้ที่ตนศึกษาให้เพื่อนฟังจนครบทุกหัวข้อ
๕.๖ ครูอธิบายประกอบการซักถามเนื้อหาเพิ่มเติมเพื่อเป็นการตรวจสอบความรู้ของ
นักเรียนว่าจากการร่วมกันศึกษาแลกเปลี่ยนความรู้นั้นถูกต้องชัดเจนเพียงพอ
หรือไม่
๖)บทเรียนที่ได้รับ
นักเรียนและครูเกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกันทั้งชั้นเรียนตลอดจนเป็นการเสริมสร้างความคิดใหม่ๆ ในการศึกษาเนื้อหาให้กว้างขึ้น
๗)แนวทางแก้ไขเพื่อพัฒนาต่อยอด
นักเรียนมีความมั่นใจว่าตนเองมีความสามารถทำให้เกิดทักษะในการพูดประเภทอธิบายหรือบรรยายที่ดีต่อไป