IELTS คืออะไร
IELTS หรือการทดสอบภาษาอังกฤษระดับนานาชาติ ได้รับการออกแบบเพื่อใช้ประเมินความสามารถด้านภาษาของผู้สมัครสอบที่ต้องการเรียน หรือทำงานในสถานที่ที่ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร การสอบ IELTS ใช้ประเมินความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษใน 4 ทักษะ ได้แก่ การฟัง การอ่าน การเขียน และ การพูด รวมถึงความรู้ทางด้านไวยากรณและ์ คำศัพทในการใช้ภาษา
IELTS ได้รับการยอมรับจากมหาวิทยาลัยและบริษัทต่างๆในหลายประเทศ เช่น ออสเตรเลีย แคนาดา นิวซีแลนด์ สหราชอาณาจักร และ สหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ IELTS ยังเป็นที่ยอมรับของสถาบัน กองตรวจคนเข้าเมือง และ องค์กรของรัฐบาลอีกหลายแห่ง
ทั้งนี้ สำหรับการสอบ IELTS ผู้สมัครควรมีอายุไม่ต่ำกว่า 16 ปี
รูปแบบการสอบ IELTS
IELTS เป็นการทดสอบเพื่อวัดระดับทักษะทางภาษาอังกฤษที่จำเป็นต้องใช้ในการศึกษาหรือการฝึกงาน การทดสอบจะแบ่งออกเป็น 4 หมวด โดยที่ผู้สมัครทุกท่านจะต้องทดสอบ การฟัง และ การพูด เหมือนกัน แต่จะสามารถเลือกหมวดการสอบในส่วนของการอ่าน และการเขียน เป็นแบบเชิงการฝึกอบรมทั่วไป (General Training) หรือ แบบเชิงวิชาการ (Academic) ได้
ผู้สมัครสอบที่มีความประสงค์จะไปศึกษาต่อ ควรเลือกสอบหมวดการอ่านและการเขียนเชิงวิชาการ (Academic Reading and Writing Modules)
ผู้สมัครสอบที่มีความประสงค์จะไปฝึกงานหรืออพยพย้ายถิ่นฐาน ควรเลือกสอบหมวดการอ่านและการเขียนเชิงการฝึกอบรมทั่วไป (General Training Reading and Writing Modules.)
+ หมวดการสอบเชิงวิชาการ (Academic Module) จะประเมินความรู้ความสามารถของผสมัครู้สอบในใช้การภาษาเชิงวิชาการเพื่อการศึกษา เช่น การเจรจาโต้ตอบที่ซับซ้อน การอภิปรายเกี่ยวกับแนวความคิดนามธรรม และ การจัดการข้อมูลต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพ
+ หมวดการสอบเชิงการฝึกอบรมทั่วไป (General Training Module)จะประเมินความสามารถทางภาษาของผู้สมัครสอบอย่างกว้างๆ โดยการสอบในหมวดนี้จะเหมาะกับ ผู้สมัครที่จะนำผลสอบไปใช้เพื่อการฝึกงาน เพื่อการศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษา หรือเพื่อการประกอบอาชีพ ในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร
img]https://i.servimg.com/u/f62/15/52/06/86/thaila10.jpg[/img] การสอบใน 3 หมวดแรก การฟัง การอ่าน และการเขียนจะต้องสอบภายในวันเดียวกัน โดยไม่มีการหยุดพักระหว่างการสอบ ส่วนวันทดสอบการพูดนั้นขึ้นอยู่กับศูนย์สอบจะกำหนด โดยจะกระทำการสอบภายใน 7 วัน ก่อนหรือหลังการทดสอบในหมวดอื่น ๆ
การลงทะเบียนสอบและการชำระเงิน
ในการลงทะเบียนสอบ IELTS ผู้สมัครต้องใช้หลักฐานดังต่อไปนี้
+ ใบสมัคร IELTS
+ คู่มือการลงทะเบียนปี (กรุงเทพ)
+ คู่มือการลงทะเบียนปี (เชียงใหม่)
+ หนังสือเดินทางหรือบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง พร้อมสำเนา ที่ยังไม่หมดอายุจนกระทั่งวันสอบ
+ รูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว 2 ใบ ไม่สวมแว่นตา ซึ่งถ่ายภายในระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน
หมายเหตุ: ผู้พิการสามารถยื่นเรื่องขอจัดสอบเป็นกรณีพิเศษได้กับเจ้าหน้าที่จัดสอบโดยตรง
ค่าทดสอบ
ค่าทดสอบ IELTS 5,900 บาท
หมายเหตุ
- ผู้สมัครจะต้องชำระค่าสมัครล่วงหน้าก่อนวันสอบและไม่สามารถขอรับค่าธรรมเนียมคืนหรือขอเปลี่ยนเป็นรูปแบบใดๆได้เมื่อได้ลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว
- ถ้าผู้สมัครไม่สามารถมาสอบในวันสอบด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ ผู้สมัครสามารถขอเปลี่ยนวันสอบเป็นวันสอบครั้งถัดไปหรือขอรับค่าธรรมเนียมสอบคืนได้ส่วนหนึ่งโดยผู้สมัครจะต้องแสดงใบรับรองแพทย์ซึ่งออกโดย โรงพยาบาลรัฐบาล และต้องยื่นให้ศูนย์สอบอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนวันสอบ
- ศูนย์สอบจะปิดรับสมัคร 3 วันก่อนวันสอบหรือเมื่อวันสอบในรอบนั้นเต็ม
- ในกรณีที่สถาบันการศึกษาหรือกลุ่มผู้สนใจต้องการให้จัดสอบพิเศษสอบสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่สอบโดยตรงได้
ที่มา http://education.kapook.com/view19396.html[img][/img][img][/img][img][/img]
IELTS หรือการทดสอบภาษาอังกฤษระดับนานาชาติ ได้รับการออกแบบเพื่อใช้ประเมินความสามารถด้านภาษาของผู้สมัครสอบที่ต้องการเรียน หรือทำงานในสถานที่ที่ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร การสอบ IELTS ใช้ประเมินความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษใน 4 ทักษะ ได้แก่ การฟัง การอ่าน การเขียน และ การพูด รวมถึงความรู้ทางด้านไวยากรณและ์ คำศัพทในการใช้ภาษา
IELTS ได้รับการยอมรับจากมหาวิทยาลัยและบริษัทต่างๆในหลายประเทศ เช่น ออสเตรเลีย แคนาดา นิวซีแลนด์ สหราชอาณาจักร และ สหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ IELTS ยังเป็นที่ยอมรับของสถาบัน กองตรวจคนเข้าเมือง และ องค์กรของรัฐบาลอีกหลายแห่ง
ทั้งนี้ สำหรับการสอบ IELTS ผู้สมัครควรมีอายุไม่ต่ำกว่า 16 ปี
รูปแบบการสอบ IELTS
IELTS เป็นการทดสอบเพื่อวัดระดับทักษะทางภาษาอังกฤษที่จำเป็นต้องใช้ในการศึกษาหรือการฝึกงาน การทดสอบจะแบ่งออกเป็น 4 หมวด โดยที่ผู้สมัครทุกท่านจะต้องทดสอบ การฟัง และ การพูด เหมือนกัน แต่จะสามารถเลือกหมวดการสอบในส่วนของการอ่าน และการเขียน เป็นแบบเชิงการฝึกอบรมทั่วไป (General Training) หรือ แบบเชิงวิชาการ (Academic) ได้
ผู้สมัครสอบที่มีความประสงค์จะไปศึกษาต่อ ควรเลือกสอบหมวดการอ่านและการเขียนเชิงวิชาการ (Academic Reading and Writing Modules)
ผู้สมัครสอบที่มีความประสงค์จะไปฝึกงานหรืออพยพย้ายถิ่นฐาน ควรเลือกสอบหมวดการอ่านและการเขียนเชิงการฝึกอบรมทั่วไป (General Training Reading and Writing Modules.)
+ หมวดการสอบเชิงวิชาการ (Academic Module) จะประเมินความรู้ความสามารถของผสมัครู้สอบในใช้การภาษาเชิงวิชาการเพื่อการศึกษา เช่น การเจรจาโต้ตอบที่ซับซ้อน การอภิปรายเกี่ยวกับแนวความคิดนามธรรม และ การจัดการข้อมูลต่างๆอย่างมีประสิทธิภาพ
+ หมวดการสอบเชิงการฝึกอบรมทั่วไป (General Training Module)จะประเมินความสามารถทางภาษาของผู้สมัครสอบอย่างกว้างๆ โดยการสอบในหมวดนี้จะเหมาะกับ ผู้สมัครที่จะนำผลสอบไปใช้เพื่อการฝึกงาน เพื่อการศึกษาต่อในระดับมัธยมศึกษา หรือเพื่อการประกอบอาชีพ ในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร
img]https://i.servimg.com/u/f62/15/52/06/86/thaila10.jpg[/img] การสอบใน 3 หมวดแรก การฟัง การอ่าน และการเขียนจะต้องสอบภายในวันเดียวกัน โดยไม่มีการหยุดพักระหว่างการสอบ ส่วนวันทดสอบการพูดนั้นขึ้นอยู่กับศูนย์สอบจะกำหนด โดยจะกระทำการสอบภายใน 7 วัน ก่อนหรือหลังการทดสอบในหมวดอื่น ๆ
การลงทะเบียนสอบและการชำระเงิน
ในการลงทะเบียนสอบ IELTS ผู้สมัครต้องใช้หลักฐานดังต่อไปนี้
+ ใบสมัคร IELTS
+ คู่มือการลงทะเบียนปี (กรุงเทพ)
+ คู่มือการลงทะเบียนปี (เชียงใหม่)
+ หนังสือเดินทางหรือบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง พร้อมสำเนา ที่ยังไม่หมดอายุจนกระทั่งวันสอบ
+ รูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว 2 ใบ ไม่สวมแว่นตา ซึ่งถ่ายภายในระยะเวลาไม่เกิน 6 เดือน
หมายเหตุ: ผู้พิการสามารถยื่นเรื่องขอจัดสอบเป็นกรณีพิเศษได้กับเจ้าหน้าที่จัดสอบโดยตรง
ค่าทดสอบ
ค่าทดสอบ IELTS 5,900 บาท
หมายเหตุ
- ผู้สมัครจะต้องชำระค่าสมัครล่วงหน้าก่อนวันสอบและไม่สามารถขอรับค่าธรรมเนียมคืนหรือขอเปลี่ยนเป็นรูปแบบใดๆได้เมื่อได้ลงทะเบียนเรียบร้อยแล้ว
- ถ้าผู้สมัครไม่สามารถมาสอบในวันสอบด้วยเหตุผลด้านสุขภาพ ผู้สมัครสามารถขอเปลี่ยนวันสอบเป็นวันสอบครั้งถัดไปหรือขอรับค่าธรรมเนียมสอบคืนได้ส่วนหนึ่งโดยผู้สมัครจะต้องแสดงใบรับรองแพทย์ซึ่งออกโดย โรงพยาบาลรัฐบาล และต้องยื่นให้ศูนย์สอบอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนวันสอบ
- ศูนย์สอบจะปิดรับสมัคร 3 วันก่อนวันสอบหรือเมื่อวันสอบในรอบนั้นเต็ม
- ในกรณีที่สถาบันการศึกษาหรือกลุ่มผู้สนใจต้องการให้จัดสอบพิเศษสอบสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่สอบโดยตรงได้
ที่มา http://education.kapook.com/view19396.html[img][/img][img][/img][img][/img]