เรื่องเล่าเร้าพลัง
ชื่อผู้เล่า นางปิยาภรณ์ ธรรมรักษา
เรื่อง แนวทางปฏิบัติตนให้เป็นคนมีจิตไม่หวั่นไหว
วัตถุประสงค์ นำมงคลชีวิตเรื่องจิตไม่หวั่นไหวเพราะโลกธรรม ไปประพฤติปฏิบัติในชีวิตประจำวันเพื่อพัฒนาตนเองและสังคมได้
แนวทางปฏิบัติตนให้เป็นคนมีจิตไม่หวั่นไหว
• เป็นมนุษย์ได้ลาภก็เสื่อมลาภ ถึงจะปลาบปลื้มในในยศศักดิ์
• มิช้านานเลื่อมยศรันทดนัก เคยมีรัก สรรเสริญ คำเยินยอ
• รักมากลายเกลียดชังนั่งค่อนว่า ที่เคยชมกลับนินทาน่าเศร้าหนอ
• ที่เคยสุขกลับทุกข์ระทมท้อ ย่อมเกิดก่อหมุนเวียนเปลี่ยนตามกรรม
• ฉะนี้จงรู้ไว้ไม่ประมาท ฝึกจิตใจใสสะอาดทุกเช้าค่ำ
ในสภาพความเป็นจริงของชีวิตมนุษย์ ย่อมมีทั้งความสุข ความทุกข์ ความสมหวัง ความผิดหวัง ความอิสระรื่นรมย์สดใส และความว้าเหว่ คละเคล้ากันไป ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา หากมนุษย์เรารู้เท่าทันในสภาพเหล่านี้และยอมรับได้ ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้ารับไม่ได้ โดยเฉพาะเมื่อสภาพต่าง ๆ เหล่านี้เกิดขึ้นรวดเร็วและรุนแรง ก็ย่อมจะไม่มีปัญหาเกิดขึ้นโดยเฉพาะปัญหาทางจิต ด้วยเหตุนี้เราจึงจำเป็นต้องฝึกฝนควบคุมจิตใจให้มั่นคง ไม่หวั่นไหว
การมีจิตไม่หวั่นไหว หมายถึง การมีจิตใจที่หนักแน่นมั่นคง ไม่สั่นคลอนหรือผันแปรไปตามอารมณ์ต่าง ๆ ที่พึงปรารถนา และไม่พึงปรารถนา ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาต่าง ๆ ของชีวิต
บทเรียนที่ได้รับ
การเผชิญกับสถานการณ์ดังกล่าวข้างต้น หากคนเรารู้เท่าทันและคิดเสียว่าเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตทุกคนต้องเผชิญ แล้วมีจิตรับรู้ มั่นคง ควบคุมจิตด้วยสติสัมปชัญญะไว้ได้ มีจิตไม่หวั่นไหวย่อมดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุข
การพัฒนาต่อยอด เป็นหลักธรรมที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้
ชื่อผู้เล่า นางปิยาภรณ์ ธรรมรักษา
เรื่อง แนวทางปฏิบัติตนให้เป็นคนมีจิตไม่หวั่นไหว
วัตถุประสงค์ นำมงคลชีวิตเรื่องจิตไม่หวั่นไหวเพราะโลกธรรม ไปประพฤติปฏิบัติในชีวิตประจำวันเพื่อพัฒนาตนเองและสังคมได้
แนวทางปฏิบัติตนให้เป็นคนมีจิตไม่หวั่นไหว
• เป็นมนุษย์ได้ลาภก็เสื่อมลาภ ถึงจะปลาบปลื้มในในยศศักดิ์
• มิช้านานเลื่อมยศรันทดนัก เคยมีรัก สรรเสริญ คำเยินยอ
• รักมากลายเกลียดชังนั่งค่อนว่า ที่เคยชมกลับนินทาน่าเศร้าหนอ
• ที่เคยสุขกลับทุกข์ระทมท้อ ย่อมเกิดก่อหมุนเวียนเปลี่ยนตามกรรม
• ฉะนี้จงรู้ไว้ไม่ประมาท ฝึกจิตใจใสสะอาดทุกเช้าค่ำ
ในสภาพความเป็นจริงของชีวิตมนุษย์ ย่อมมีทั้งความสุข ความทุกข์ ความสมหวัง ความผิดหวัง ความอิสระรื่นรมย์สดใส และความว้าเหว่ คละเคล้ากันไป ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา หากมนุษย์เรารู้เท่าทันในสภาพเหล่านี้และยอมรับได้ ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่ถ้ารับไม่ได้ โดยเฉพาะเมื่อสภาพต่าง ๆ เหล่านี้เกิดขึ้นรวดเร็วและรุนแรง ก็ย่อมจะไม่มีปัญหาเกิดขึ้นโดยเฉพาะปัญหาทางจิต ด้วยเหตุนี้เราจึงจำเป็นต้องฝึกฝนควบคุมจิตใจให้มั่นคง ไม่หวั่นไหว
การมีจิตไม่หวั่นไหว หมายถึง การมีจิตใจที่หนักแน่นมั่นคง ไม่สั่นคลอนหรือผันแปรไปตามอารมณ์ต่าง ๆ ที่พึงปรารถนา และไม่พึงปรารถนา ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาต่าง ๆ ของชีวิต
บทเรียนที่ได้รับ
การเผชิญกับสถานการณ์ดังกล่าวข้างต้น หากคนเรารู้เท่าทันและคิดเสียว่าเป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตทุกคนต้องเผชิญ แล้วมีจิตรับรู้ มั่นคง ควบคุมจิตด้วยสติสัมปชัญญะไว้ได้ มีจิตไม่หวั่นไหวย่อมดำรงชีวิตได้อย่างมีความสุข
การพัฒนาต่อยอด เป็นหลักธรรมที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้